บีบีจีไอ เฟิร์มบ็อกซ์ โรงงานชีวภาพขั้นสูงแห่งแรกในอาเซียน ได้บีโอไอตั้งในฉะเชิงเทรา

บีโอไอ อนุมัติส่งเสริมการลงทุนบริษัท บีบีจีไอ เฟิร์มบ็อกซ์ ไบโอ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง BBGI บริษัทลูกบางจาก และ Fermbox Bio จากอินเดีย ในโครงการผลิตเอนไซม์สำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ทุ่ม 440 ล้านบาท กำลังการผลิตเฟสแรก 2 แสนลิตร เป็นต้นน้ำ BCG ของประเทศ

วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอได้ อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนบริษัท บีบีจีไอ เฟิร์มบ็อกซ์ ไบโอ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มบางจากฯ ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง กับบริษัท เฟิร์มบ็อกซ์ ไบโอ ประเทศอินเดีย

ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาสังเคราะห์ (Synbio) และด้านการขยายกำลังการผลิตไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ (Lab-to-launch) เพื่อจัดตั้งโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้เทคโนโลยีการหมักที่แม่นยำ (Precision Fermentation) เพื่อผลิตเซลลูโลซิก เอนไซม์ (Cellulosic Enzyme) สำหรับใช้ในอุตสาหกรรม โดยขยายขนาดจากระดับห้องปฏิบัติการและโรงงานต้นแบบสู่ระดับเชิงพาณิชย์

ซึ่งถือเป็นโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงขนาดใหญ่แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตในระยะแรก 2 แสนลิตร ประกอบด้วยถังหมักขนาดใหญ่ 1 แสนลิตร จำนวน 2 ถัง ซึ่งเป็นถังหมักที่มีขนาดใหญ่กว่าอินเดียกว่า 2 เท่า และบริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตรวมให้ได้ถึง 1 ล้านลิตร ในระยะต่อไป โดยมีเงินลงทุนในระยะแรก 440 ล้านบาท ตั้งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และจะใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่จากในประเทศ

ทั้งนี้ Cellulosic Enzyme เป็นเอนไซม์ที่ช่วยย่อยและเปลี่ยนเซลลูโลสในชีวมวลเหลือทิ้ง เช่น เศษไม้ ฟางข้าว กากมันสำปะหลัง และชานอ้อย ให้เป็นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งสามารถต่อยอดไปผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพได้หลากหลาย เช่น พลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ โปรตีนชีวภาพ น้ำมันอากาศยานชีวภาพ (SAF) เป็นต้น และบริษัทยังมีแผนขยายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์ด้านชีววิทยาสังเคราะห์ (Synbio) อื่น ๆ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเสริมสุขภาพ เวชสำอาง และพลังงานในระยะต่อไปด้วย

Advertisment

นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อสร้างความร่วมมือกับสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อขยายขนาดการผลิตในกระบวนการทางชีวภาพจากระดับห้องปฏิบัติการและโรงงานต้นแบบไปสู่ระดับเชิงพาณิชย์ให้กับนักวิจัยของสถาบันฯ อีกด้วย

“การตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงที่เป็นการผลิตเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่แห่งแรกในอาเซียนในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงความพร้อมด้านวัตถุดิบ โครงสร้างพื้นฐาน และบุคลากร โครงการนี้จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมต้นน้ำด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ต่อยอดจากงานวิจัยให้สามารถ scale up สู่ระดับอุตสาหกรรม อีกทั้งมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green หรือ BCG เพื่อมุ่งสู่การเป็น Bio Hub ของภูมิภาคอาเซียน”

Scroll to Top