“พาณิชย์” ชี้เป้าข้าวเหนียวมะม่วงไทย ฮอตในตลาดคู่ค้า FTA 3 เดือนแรกปี 2567 ส่งออกมะม่วงสด พุ่ง 130% มูลค่าถึง 1.5 พันล้านบาท ตลาดอาเซียน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฮ่องกง จีน นำโด่ง สายพันธุ์ยอดนิยม ทั้งน้ำดอกไม้ มหาชนก เขียวเสวย ส่วนข้าวเหนียว ส่งออกโต 13% มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท แนะใช้ FTA ขยายส่งออก ปลดล็อกกำแพงภาษี
วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นขนมหวานไทยที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคนานาประเทศ ล่าสุด เว็บไซต์จัดอันดับอาหารระดับโลก “TasteAtlas” ได้จัดอันดับให้ข้าวเหนียวมะม่วงไทย ติดอันดับ 2 ของโลก ในฐานะพุดดิ้งข้าวที่ดีที่สุด ทำให้สินค้าดังกล่าว รวมทั้งมะม่วงสดและข้าวเหนียว ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสทองที่ผู้ประกอบการไทยจะขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
โดยใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อปลดล็อกกำแพงภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสำคัญของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ที่มุ่งผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย SMEs โดยเฉพาะรายเล็ก
จากสถิติการค้าระหว่างประเทศ ไทยส่งออกมะม่วงสดไปตลาดโลกปริมาณเฉลี่ยกว่าปีละ 1 แสนตัน มูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 2567) ไทยส่งออกมะม่วงสดไปตลาดโลก มูลค่า 1,626 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่าถึง 1,580 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 130 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 97 ของการส่งออกมะม่วงทั้งหมด
ขณะที่ไทยส่งออกข้าวเหนียวไปตลาดโลกกว่าปีละ 1.4 แสนตัน มูลค่ามากกว่า 3.5 พันล้านบาทต่อปี โดยในช่วง 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 2567) ไทยส่งออกข้าวเหนียวไปตลาดโลก มูลค่า 1,021 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่าถึง 688 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 67 ของการส่งออกข้าวเหนียวทั้งหมด ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกมะม่วงอันดับ 5 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มข้าวเหนียวอันดับที่ 2 ของโลก
ปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับคู่ค้า 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถใช้เป็นแต้มต่อทางการค้าให้กับสินค้าของไทย โดยสินค้ามะม่วงสด 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 7 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไนฯ เวียดนาม เมียนมา และมาเลเซีย)
จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว เหลือเพียง สปป.ลาว เก็บภาษีร้อยละ 5 กัมพูชา เก็บภาษีร้อยละ 5 และเกาหลีใต้ เก็บภาษีร้อยละ 24 สินค้าข้าวเหนียว 8 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง สปป.ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ บรูไนฯ และชิลี ไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว ส่วนประเทศอื่น ๆ ได้ตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าให้ไทย
อาทิ จีน ลดภาษีเหลือร้อยละ 50 อินโดนีเซีย ลดภาษีเหลือร้อยละ 30 และมาเลเซีย ลดภาษีเหลือร้อยละ 32 สำหรับสินค้าข้าวเหนียวมะม่วงพร้อมรับประทาน 16 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และเปรู ไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว
สำหรับตลาดคู่ค้า FTA ที่นำเข้ามะม่วงสดมาแรง อาทิ อาเซียน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฮ่องกง และจีน โดยพันธุ์มะม่วงของไทยที่ได้รับความนิยม อาทิ น้ำดอกไม้ มหาชนก และเขียวเสวย ขณะที่สินค้าข้าวเหนียวของไทยได้รับความนิยมสูงในตลาดจีนและอาเซียน ทั้งนี้ สินค้าดังกล่าวมีโอกาสสูงที่จะขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย และมีผลผลิตป้อนตลาดได้ตลอดทั้งปี